วันอังคารที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

1.3 ผลกระทบจากการขาดแคลนพลังงานไฟฟ้า



ผลกระทบระดับปัญหาสิ่งแวดล้อม

       ปัญหาสิ่งแวดล้อม หมายถึง ปัญหาที่เกิดจากการใช้ทรัพยากรธรรมชาติของมนุษย์ผิดหลักการอนุรักษ์วิทยาใช้อย่างฟุ่มเฟือย เกินความจำเป็นก่อให้เกิดผลกระทบต่อมนุษย์ พืช สัตว์ นำไปสู่การขาดดุลภาพทางธรรมชาติ รวมทั้งการปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมนักสิ่งแวดล้อมได้แบ่งระดับปัญหาของสิ่งแวดล้อมไว้ ดังนี้
1. ปัญหาสิ่งแวดล้อมระดับท้องถิ่น เป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่มีขนาดความรุนแรงไม่มากนัก แก้ไขได้ไม่ยุ่งยาก กระทบกระเทือนต่อสภาพแวดล้อมในบริเวณใกล้เคียง เช่น การปล่อยเขม่า ควัน เสียงดัง ของโรงสีข้าวในชนบท การทิ้งขยะส่งกลิ่นเหม็นในชุมชน เป็นต้น
2. ปัญหาสิ่งแวดล้อมระดับประเทศหรือภูมิภาค เป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่มีความรุนแรงค่อนข้างมาก เกิดกับคนหมู่มากในบริเวณกว้าง อาจจะเกิดปัญหาระดับท้องถิ่นมากๆ สะสมหรือรวมกัน เช่น การลักลอบตัดไม้ทำลายป่า การค้าและยาเสพติด การลักลอบค้าน้ำมันเถื่อน การขาดแคลนน้ำหรือภัยแล้ง ปัญหาน้ำท่วมเป็นต้น
3. ปัญหาสิ่งแวดล้อมระดับโลก เช่นปัญหาสิ่งแวดล้อมระดับมหาศาลกระทบกระเทือนต่อสิ่งมีชีวิต คนและสภาพแวดล้อมทั่วโลก ซึ่งเกิดปัญหาระดับท้องถิ่นและระดับภูมิภาคสะสมมากขึ้นจนยากจะแก้ไข การแก้ไขต้องร่วมมือของคนทั่วโลก เช่นการเกิดภาวะโลกร้อน การสูญเสียชั้นโอโซน การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพของโลก เป็นต้น

ที่มาภาพ : http://thitiphun.wikispaces.com

ผลกระทบการใช้พลังงานต่อภาวะโลกร้อน

        ภาวะโลกร้อน หรือภาวะที่โลกมีอุณหภูมิสูงขึ้นเนื่องจากการใช้พลังงานเกิดจากการเผาไหม้ ถ่านหิน น้ำมันเชื้อเพลิง จะทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (co2) และกลุ่มก๊าซอื่นๆการสะสมของก๊าซเหล่านี้ชั้นบรรยากาศถ้ามีมีมากขึ้น จะกั้นไม่ให้ความร้อนจากพื้นโลกสะท้อนทะลุผ่านขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศได้ ซึ่งเราเรียกว่าปรากฏการณ์นี้ว่า “ภาวะเรือนกระจก” เนื่องจากพลังงานที่มาจากการแผ่รังสีของดวงอาทิตย์เป็นรังสีคลื่นสั้น เมื่อถูกวัตถุทึบแสงคือผิวโลก จะเปลี่ยนเป็นรังสีคลื่นยาว (ความร้อน) สะท้อนสู่ชั้นบรรยากาศจึงทำให้อุณหภูมิบริเวณใกล้ผิวโลกร้อน หรือเราเรียกว่า ภาวะโลกร้อน ซึ่งคำว่า เรือนกระจก หมายถึง โรงเรือนที่ทำขึ้นด้วยกระจกให้แผ่นผ่านกระจกด้วยรังสีคลื่นสั้น กระทบผิววัตถุในเรือนกระจกลัวสะท้อนกลับด้วยรังสีคลื่นยาวแต่ผ่านไม่ได้ติดที่กระจก

                                            ที่มาภาพ : http://thitiphun.wikispaces.com



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น